ความเข้าใจผิดบางประการเกี่ยวกับ Joomla!
โดย Mathias Verraes
ต่อไปนี้ผมจะเล่าให้ฟังถึงความเชื่อผิดๆ และความเข้าใจผิดบางประการเกี่ยวกับ Joomla!? ซึ่งคุณอาจจะอ่านพบตอนท่องเว็บไปตามฟอรัมต่างๆ นะครับ
Joomla! เหมาะสำหรับไซท์เล็กๆ เท่านั้น
จริงๆ แล้วมีเว็บไซท์ขนาดใหญ่มากมายที่ใช้ Joomla! และลูกค้าหลายรายที่เราให้คำปรึกษา กำลังใช้ Joomla! สร้างเว็บไซท์ให้กับสินค้าดังๆ ระดับข้ามชาติเลยทีเดียว แต่โดยทั่วไปแล้วเว็บไซท์พวกนี้จะถูกดัดแปลงปรับปรุงไปจนจำไม่ได้? ดังนั้นเมื่อมองจากภาพนอกแล้วจะไม่รู้เลยว่าใช้ซอฟต์แวร์อะไรทำเว็บไซท์นั้น นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่ดีที่ควรปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เพราะจะยิ่งทำให้มีแฮคเกอร์น้อยลงไปอีกที่จะล่วงรู้ถึงระบบของคุณ โดยทั่วไปแล้วเว็บไซท์ที่สำคัญนั้น นักพัฒนาเว็บไซท์จะพยายามซ่อนเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้ไม่ใช้คนอื่นรู้ และประการสุดท้าย พวกนักพัฒนาพวกนี้มักยุ่งเกินกว่าที่จะไปพูดคุยบอกเล่าตามฟอรัมต่างๆ
การใช้ Legacy mode เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อเว็บไซท์ของคุณ
ปลั๊กอินสำหรับเอกซ์เทนชั่นเวอร์ชันเก่า (legacy plugin) เป็นเพียงแค่เปลือกบางๆ เท่านั้น โดยมันทำงานหลอก extension รุ่นเก่าให้คิดว่าพวกมันกำลังทำงานบน Joomla! 1.0.x.? แต่นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรให้กับระบบ หรือต่อ extension อื่นๆ แต่อย่างไร และแทบจะไม่ได้ลดการใช้หน่วยความจำลง หรือมีผลต่อประสิทภาพโดยรวม อย่างไรก็ตามพวกนักพัฒนา extension ได้ใช้ความจริงข้อที่ว่า extension ของพวกเขาเป็นเวอร์ชัน 1.5 แท้ มาใช้ทางการตลาด สร้างภาพกันเสียจนทำให้ legacy mode กลายเป็นสิ่งเลวร้ายไป แต่เรื่องนี้ในทางกลับกันทำให้นักพัฒนาบางคนทำ extension หลอกขึ้นมา: นั่นก็คือเป็น extensions ของเวอร์ชั่น 1.0 ซึ่งไม่ต้องการ legacy mode แต่มีการใส่ชุดคำสั่งไลบราลีเก่าไว้ในแพ็คเก็จของตน
แน่นอนว่ามีข้อได้เปรียบอยู่มากในการใช้ extension รุ่นเดียวกัน (หรือเป็น native extention) แต่ส่วนตัวผมยินดีจะเลือกใช้ extension ของเวอร์ชันเดิมที่มีความมั่นคง ทำงานได้ดี และปลอดภัยกว่า มากกว่าที่จะใช้ native extention ที่ไม่ค่อยเข้าท่า
Joomla! มี SEO ไม่เพียงพอ
SEO ของเว็บไซท์เป็นสิ่งที่คุณจะต้องทำมันขึ้นมา และไม่มีทูลใดจะมาทำมันให้กับคุณ เรื่อง Search engine optimization (SEO) ไม่ได้เป็นเรื่องไสยศาสตร์ Google และเจ้าอื่นๆ พยายามที่จะค้นหาเพ็จทำนองเดียวกับที่มนุษย์ทั่วไปทำ ดังนั้นพวกเขาก็จะมองดูเว็บไซท์อย่างเดียวกับที่คนทั่วไปดู เมื่อคุณมองดูหน้าเว็บคร่าวๆ คุณก็จะสังเกตสิ่งต่างๆ ได้แก่ชื่อหน้า, URL, หัวข้อเรื่อง เป็นต้น เมื่อพวกนี้มีคำที่ใช้อธิบายถึงข้อความเนื้อหา คุณก็จะเกิดความคิดว่าเว็บไซท์นั้นเกี่ยวกับเรื่องอะไร โดยไม่ต้องอ่านเนื้อหาจริงๆ ดัวยเหตุนี้ เนื้อหาเว็บที่มีการจัดโครงสร้างเป็นอย่างดี จะทำให้เว็บไซท์ของคุณถูกจัดลำดับดี มากกว่าที่ทูลใดๆ จะทำให้
แต่แน่ละมีเรื่องของการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง: นั่นคือบริษัทต่างๆ พยายามขายทูล หรือเสนอบริการต่างๆ ให้กับคุณ บอกว่าจะช่วยให้คุณอยู่ในลำดับดีกว่าได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ขอยกตัวอย่าง? SEF URL? ที่? Joomla!? สร้างขึ้นมานั้น ก็ยิ่งกว่าพอเสียอีก ถ้าหากคุณเลือก aliases ได้อย่างเหมาะสม (แม้จะต้องยอมรับว่ามันสวยน้อยกว่าที่ทูลอื่นทำให้)
Joomla! เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่ไม่เหมาะกับนักพัฒนา
เมื่อคุณเป็นนักพัฒนาเว็บที่สร้างเว็บไซท์ให้ลูกค้า คุณอาจจะทำงานในโครงการใดสักสองเดือนก็เต็มที่แล้ว ภายหลังจากนั้น ผู้ใช้งานจริงจะเป็นคนดูแลเนื้อหาต่อไปนานนับปี ดังนั้นระบบ CMS ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน จึงเป็นสิ่งแรกที่คุณควรคำนึง? แค่ลองคิดดูสิว่าคุณจะต้องตอบโทรศัพท์ลูกค้าบ่อยครั้งแค่ไหน ถ้าหากลูกค้าของคุณประสบปัญหาในการทำงานกับระบบ
เรื่องที่เป็นประวัติศาสตร์ไปแล้วก็คือ Joomla 1.0 มีโค้ดที่ไม่ค่อยเข้าท่า และมักจะต้องมีการแฮคเพื่อจะทำอะไรสักอย่าง และโดยทั่วไปแล้ว Joomla! มักจะมีชุมชนของผู้ใช้งานทั่วไป ในขณะที่โครงการอื่นเช่น Drupal ได้ดึงดูดนักพัฒนาจำนวนมากกว่าในช่วงแรก สิ่งนี้ทำให้เกิดความคิดสรุปว่า Drupal มีความเป็นมิตรกับนักพัฒนามากกว่า
อย่างไรก็ดีใน? Joomla! 1.5 หลายสิ่งหลายอย่าง -- หรือทุกสิ่ง! -- ได้เปลี่ยนไปสำหรับนักพัฒนา ใครก็ตามที่เห็นเป็นอื่นแสดงว่าไม่ได้มองเข้าไปถึงภายใน หรืออย่างน้อยก็ยังไม่ใช้งานนานพอที่จะตระหนักถึงศักยภาพเต็มที่ของมัน เฟรมเวอร์คใหม่นั้นเปี่ยมไปด้วยพลังและมีความยืดหยุ่นสูง และยังช่วยให้คุณสร้างแอพพลิเคชันแบบออปเจ็กท์ ที่เหมาะสมได้
โดย Kanok Suwannasit
http://blog.joomlatools.org/2008/07/common-joomla-misconceptions.html